ประกันรถยนต์แต่ละแบบต่างกันยังไง? เลือกแบบไหนดีให้คุ้มสุด?
เข้าใจประกันรถยนต์แต่ละแบบใน 5 นาที
หนึ่งในคำถามยอดฮิตของคนมีรถคือ “ประกันรถยนต์แต่ละชั้นต่างกันยังไง?” หรือ “ควรเลือกประกันชั้น 1 หรือแค่ 3+ ก็พอ?”
ถ้าคุณกำลังหาคำตอบ บทความนี้จะช่วยอธิบายให้คุณเข้าใจง่าย ๆ พร้อมคำแนะนำเลือกประกันที่ “คุ้ม” และ “เหมาะ” กับคุณที่สุด
ความแตกต่างของประกันแต่ละชั้น
ในไทย เราแบ่งประกันรถยนต์ออกเป็น 4 ชั้นหลัก ๆ คือ ชั้น 1, 2+, 3+, และ ชั้น 3 ซึ่งให้ความคุ้มครองต่างกันแบบนี้:
- ชั้น 1: คุ้มที่สุด ทั้งรถเรา-คู่กรณี, รถหาย ไฟไหม้ ไม่มีคู่กรณีก็เคลมได้
- ชั้น 2+: คุ้มครองรถคู่กรณี รถหาย ไฟไหม้ แต่ถ้าชนเสา ชนกำแพง → ไม่จ่าย
- ชั้น 3+: คล้าย 2+ แต่ไม่คุ้มครองรถหาย/ไฟไหม้
- ชั้น 3: จ่ายเฉพาะความเสียหาย “คู่กรณี” รถเราไม่เคลม
คำถามที่ควรถามตัวเองก่อนซื้อ
- รถคุณใหม่แค่ไหน? ถ้าใหม่ป้ายแดง เลือกชั้น 1 ไว้ก่อน
- ขับบ่อยแค่ไหน? ถ้าใช้งานทุกวัน โอกาสเสี่ยงก็สูง
- งบประมาณต่อปี? ถ้าเบี้ยแพงเกินไป ลองพิจารณา 2+ หรือ 3+
- คุณโอเคไหมถ้าซ่อมอู่? ถ้าซ่อมห้างแพงไป การเลือกซ่อมอู่ช่วยลดค่าเบี้ยได้มาก
ตัวอย่างเปรียบเทียบง่าย ๆ
- รถใหม่อายุไม่เกิน 3 ปี: ชั้น 1 (แนะนำ)
- รถมือสองที่ยังดูดี อายุ 5–7 ปี: 2+ หรือ 3+ ก็เพียงพอ
- รถใช้งานน้อย หรือจอดมากกว่าใช้: ชั้น 3 ประหยัดและคุ้มค่า
เคล็ดลับเลือกประกันให้คุ้มค่า
- เช็คโปรโมชั่นจากหลายบริษัทก่อนตัดสินใจ
- ดูจำนวนอู่ในเครือใกล้บ้านคุณ
- บางบริษัทมีบริการรถใช้ระหว่างซ่อม – เลือกอันนี้ถ้าคุณต้องใช้รถทุกวัน
สรุป
ประกันรถยนต์ไม่มีแบบไหนดีที่สุดสำหรับทุกคน แต่มีแบบที่ “เหมาะสมที่สุด” สำหรับคุณ ขึ้นอยู่กับอายุรถ การใช้งาน และงบประมาณ ลองเปรียบเทียบความคุ้มครองและราคา แล้วเลือกให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คุณครับ
